รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร
รีไฟแนนซ์บ้าน หมายถึง การขอยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารแห่งใหม่ เพื่อลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ โดยส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อลดดอกเบี้ยบ้านให้ต่ำลง และช่วยให้ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลงและผ่อนบ้านหมดไวยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เรากู้เงินซื้อบ้านหลังละ 3 ล้าน พอผ่อนไปได้ 1-2 ปีแรกดอกเบี้ยจะถูกอยู่ แต่หลังจากนั้นจะเกิดปัญหาดอกเบี้ยลอยตัวแพงขึ้น ทำให้เราผ่อนไม่ทัน ซึ่งทางออกก็ คือ “การรีไฟแนนซ์บ้าน” กับธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ ซึ่งจะมีเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ดีกว่าเดิม ด้วยการผ่อนต่อเดือนถูกลง ยืดระยะเวลาการผ่อนได้นานขึ้น
รีไฟแนนซ์บ้านต้องรอให้ครบ 3 ปีจริงหรือไม่?
โดยปกติแล้ว สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนควรพิจารณาก่อนทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้ คือ สัญญาที่ทำการขอกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารเดิมนั้นต้องหมดอายุลงแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดอยู่ที่ 3 ปี แต่กรณีที่ผู้กู้ต้องการขอรีไฟแนนซ์บ้านก่อนหมดอายุสัญญาสามารถทำได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารกำหนดและถูกระบุไว้ในสัญญา ดังนั้นทางที่ดีควรอ่านรายละเอียดเงื่อนไขของสัญญาการกู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
รีไฟแนนซ์บ้านที่ไหนดี
เชื่อหรือไม่ว่าคำถามรีไฟแนนซ์ที่ไหนดี? ยังคงเป็นคำถามยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือน เพราะนอกจากจะต้องพิจารณารายละเอียดของสินเชื่อบ้านใหม่แล้ว ยังต้องคำนวณเรื่องอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขของแต่ละธนาคารเป็นสำคัญ
ดังนั้นก่อนอื่นมนุษย์เงินเดือน ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าปัจจัยของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณซื้อบ้าน ความสบายใจต่อบริการ ไปจนถึงดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งการรีไฟแนนซ์บ้านที่ดีคือนอกจากจะต้องมีดอกเบี้ยบ้านในอัตราที่ต่ำแล้ว ยังต้องพิจารณาโปรโมชัน และความสะดวกในการติดต่อทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ด้วย ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีหลักเกณฑ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้องแตกต่างกันออกไป
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไรบ้าง
ในการรีไฟแนนซ์บ้านที่แท้จริงแล้วมนุษย์เงินเดือนต้องให้ความสำคัญกับสองสิ่งหลักที่ส่งผลโดยนั่นคือ “ดอกเบี้ย” และ “ระยะเวลาการผ่อน”
ดอกเบี้ย
ตัวแปรสำคัญสำหรับการกู้ ไม่ว่าจะเป็นการกู้อะไรก็ตาม โดยดอกเบี้ยสำหรับการรีไฟแนนซ์นั้นจำเป็นจะต้องต่ำกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการรีไฟแนนซ์ ให้มนุษย์เงินเดือนสามารถผ่อนบ้านของตัวเองได้อย่างราบรื่น
อีกประเด็นสำคัญที่ลืมไม่ได้คือการรีไฟแนนซ์บ้านในบางครั้งจะส่งผลให้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบดอกเบี้ย จากดอกเบี้ยแบบ MRR (Minimum Retail Rate) หรือดอกเบี้ยลอยตัว มีการเปลี่ยนแปลงได้ มาเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ ทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถจ่ายเงินได้ในอัตราที่น้อยลงกว่าเดิมในระยะยาว เพราะดอกเบี้ยประเภทนี้จะไม่ได้รับผลกระทบหากเกิดการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอื่นๆ ภายในประเทศ
